ประเภทของการศัลยกรรมเสริมหน้าอก

เสริมหน้าอก

การผ่าตัดเสริมหน้าอกนับได้ว่าเป็นหนึ่งในการทำศัลยกรรมความงาม ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ตัวเล็กหรือมีรูปร่างผอม ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจมีขนาดของหน้าอกค่อนข้างเล็ก และสร้างความไม่มั่นใจให้ตัวเองเวลาสวมใส่เสื้อผ้า หรือคุณแม่ที่เคยให้นมบุตร ก็อาจจะเจอปัญหาหน้าอกหย่อนยาน ดังนั้นการเสริมหน้าอก จึงเป็นคำตอบ ของการสร้างความมั่นใจสำหรับคุณผู้หญิงกลับคืนมาได้อย่างแท้จริง

ประเภทของการเสริมหน้าอก
ปัจจุบันการศัลยกรรมเพิ่มขนาดของหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น สามารถทำได้ด้วยกัน 3 วิธี คือ
1.การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดสารเติมเต็ม หรือ Filler เป็นการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดสารจำพวก Hyarulonic Acid โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มขนาดหน้าอกแต่ไม่อยากผ่าตัด ซึ่งหน้าอกจะมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยใช้เวลาไม่นานเพียง 30 นาที ซึ่งสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น โดยหน้าอกจะคงสภาพความสวยงามนาน 1-2 ปี

2.การเสริมหน้าอกด้วยไขมันของตัวเอง โดยเป็นการเสริมด้วยไขมันที่ดูดออกจากร่างกายของตัวเอง เช่น ดูดจากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา เป็นต้น การฉีดไขมันเสริมหน้าอกจะต้องใช้ประมาณ 200-300 ซีซี (ถ้าต้องการเพิ่มให้ใหญ่กว่านี้ควรใส่ด้วยถุงซิลิโคนจะดีที่สุด) สามารถทำได้เฉพาะผู้ที่มีไขมันเพียงพอเท่านั้น ซึ่งข้อดีของการเสริมด้วยไขมันตัวเองนั้น เนื่องจากเป็นไขมันของตัวเราเอง ฉะนั้นร่างกายจะสามารถยอมรับได้ จึงทำให้ไม่มีผลกระทบหรือผลข้างเคียงใด ๆ และได้ประโยชน์จากส่วนที่ถูกดูดออกไปด้วย เช่น ไขมันส่วนเกินตามหน้าท้อง ต้นขา ก็จะลดลงไป และจะไม่มีแผลผ่าตัดใหญ่ จะมีเพียงแผลเจาะเล็ก ๆ เท่านั้น โดยคนไข้จะ ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ไม่ต้องดมยาสลบ แต่มีข้อเสียก็คือ ไขมันของตัวเราที่ฉีดเข้าไป มีโอกาสที่ถูกดูดซึมโดยร่างกายกายได้ และอาจจะสลายบางส่วน ในระยะเวลาหนึ่งทำให้ขนาดของหน้าอกเปลี่ยนแปลง และอาจจะไม่พอดีตามที่เราต้องการ

3.การเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคน คือการผ่าตัดเพิ่มขนาดหน้าอกโดยการใส่ถุงเต้านมเทียม ปัจจุบันวิธีนี้เป็นที่ยอมรับกันและมีผลข้างเคียงน้อย ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าซิลิโคนเมื่อใส่ในร่างกายจะไม่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ถุงซิลิโคนสามารถอยู่ในคนเราได้ตลอดชีวิต ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ถุงซิลิโคนรั่วหรือเกิดพังผืดที่มีมากเกินไป